วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556


สาธารณรัฐเช็กสาธารณรัฐเช็ก

ประวัติความเป็นมา
สาธารณรัฐเช็ก (อังกฤษ: Czech Republic; เช็ก: Česká Republika) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล อยู่ในภูมิภาคยุโรปกลาง พรมแดนทางตอนเหนือจรดประเทศโปแลนด์ ทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือจรดเยอรมนี ทางใต้จรดออสเตรีย และทางตะวันออกจรดสโลวาเกีย  สาธารณรัฐเช็กประกอบด้วยภูมิภาคที่เก่าแก่สองส่วน คือ โบฮีเมียและโมราเวีย และส่วนหนึ่งของภูมิภาคที่สาม เรียกว่า ไซลีเชีย ประเทศนี้ได้เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2547  เมืองหลวงของประเทศคือ ปราก  เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศด้วย เมืองสำคัญอื่น ๆ ของประเทศ ได้แก่ เบอร์โน  ออสตราวา  เปิลเซน ฮราเดตส์กราลอเว  เชสเกบุดเยยอวีตเซ  และอูสตีนาดลาเบม   ดินแดนของสาธารณรัฐเช็กในปัจจุบัน มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปราว 2,000 ปี นับตั้งแต่เมื่อชนเผ่าสลาโวนิก (Slavonic Tribes) หรือชนเผ่าสลาฟ ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานแคว้นโบฮีเมียได้พัฒนาเป็นรัฐอิสระเป็นครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 9 แต่ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ชนเผ่าเยอรมันได้อพยพเข้ามายึดดินแดนของเช็กในปัจจุบันเป็นอาณานิคม ซึ่งเป็นปัจจัยที่สร้างวัฒนธรรมเช็กให้มีทั้งลักษณะของชนเผ่าเยอรมันและชนเผ่าสลาฟ กรุงปรากจึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลาย อาทิ โรมาเนสก์ กอทิก เรอเนซองซ์ บารอก รวมทั้งศิลปะรูปแบบต่าง ๆ ทำให้กรุงปรากเป็นเมืองที่แสดงให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาของเช็กได้อย่างดี ตั้งแต่ สมัยอาณาจักรโรมัน จนกระทั่งถึงสมัยราชวงศ์ฮับสบูร์ก (ราวศตวรรษที่ 15-18) และองค์การยูเนสโก ได้เลือกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม นอกจากนี้ เช็กยังมีชื่อเสียงและประวัติศาสตร์อันยาวนานด้านการผลิตเบียร์ โดยเฉพาะที่เมืองเปิลเซน (Plzen) กรุงปรากเป็นเมืองที่สำคัญในยุโรปตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันและยุคกลางของยุโรป กษัตริย์ชาลส์ที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมัน ได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยชาลส์ (Charles University) ขึ้นที่กรุงปรากซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันออก ในช่วงยุคกลาง เช็กอยู่ภายใต้การปกครองของคริสตจักรเช่นเดียวกับดินแดนอื่น ๆ ในยุโรป จนกระทั่งในปี 2069 เช็กจึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของราชวงศ์ฮับสบูร์ก ในศตวรรษที่ 19 เริ่มมีการฟื้นฟู national awareness ซึ่งถึงจุดสูงสุดในปี 2391 เมื่อกรุงปรากเป็นเมืองแรกในอาณาจักรฮัปสบูร์กที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูป และต้องการแยกตัวเป็นรัฐอิสระ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จนกระทั่งภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1ช่วงสงคราม
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง ฝ่ายพันธมิตรได้สนับสนุนให้ชาวเช็กและชาวสโลวักสร้างสหพันธรัฐประชาธิปไตยเชโกสโลวะเกียขึ้น ในปี 2461 เนื่องจากเช็กและสโลวักมีภาษาคล้ายคลึงกัน แต่แยกจากกันทางการเมือง เนื่องจากสโลวาเกียเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรฮังการี ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เชโกสโลวะเกียเป็นประเทศที่อุตสาหกรรมมีความก้าวหน้าที่สุดจนติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัญหาทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากชาวสโลวักต้องการแยกตัวออกเป็นรัฐอิสระจากเช็กซึ่งมีบทบาทเหนือกว่าในเดือนมีนาคม 2482 กองทัพนาซีเยอรมันได้รุกรานแคว้นโบฮีเมียและโมเรเวีย ทำให้เชโกสโลวาเกียสูญเสียความเป็นรัฐเอกราช จนกระทั่งในปี 2488 กองทัพโซเวียตได้ปลดปล่อยดินแดนของเชโกสโลวะเกียจากการปกครองของนาซี ทำให้สหภาพโซเวียตมีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการทางการเมืองของเชโกสโลวาเกียในเวลาต่อมา และในปี 2491 พรรคคอมมิวนิสต์ได้ก่อรัฐประหารยึดอำนาจไว้หลังสงครามพรรคคอมมิวนิสต์มีอิทธิพลในเชโกสโลวาเกียมาโดยตลอด จนกระทั่งในช่วงปลายทศวรรษที่ 60 ได้เริ่มมีการเคลื่อนไหวเพื่อการปฏิรูป ที่เรียกว่า ช่วงฤดูใบไม้ผลิแห่งกรุงปราก (Prague Spring) ภายใต้การนำของนายอเล็กซานเดอร์ ดูบเชค (Alexander Dubček) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ สหภาพโซเวียตและประเทศอื่นในกลุ่มกติกาสนธิสัญญาวอร์ซอ (Warsaw Pact) เกรงว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นภัยคุกคามต่อระบบคอมมิวนิสต์ จึงได้ยกกองกำลังเข้าไปในเชโกสโลวาเกียเมื่อปี 2511 และจัดตั้งระบบคอมมิวนิสต์ที่เข้มงวดขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงมีแนวคิดต่อต้านระบบคอมมิวนิสต์ในเช็กโกสโลวาเกีย
หลังจากที่สหภาพโซเวียตล่มสลายลง เชโกสโลวะเกียได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างสันติ โดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การปฏิวัติเวลเวต (Velvet Revolution) และนายวาคลัฟ ฮาเวล (Václav Havel) ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านระบบคอมมิวนิสต์ ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีเชโกสโลวาเกียในปี 2532 รัฐบาลเชโกสโลวะเกียได้มีมติเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2536 ให้สลายประเทศเชโกสโลวาเกีย และแบ่งออกเป็นสาธารณรัฐเช็กและสาธารณรัฐสโลวัก (สโลวาเกีย) ซึ่งเป็นกระบวนการที่เรียกว่า Velvet Divorce ต่อมา นายวาคลัฟ ฮาเวลได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐเช็กในปี 2536 และได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 2 ในปี 2541 จนกระทั่งหมดวาระ (วาระละ 5 ปี) เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2546 และนายวาคลัฟ เคลาอุส (Vaclav Klaus) ได้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสืบต่อ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546

สถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมของสาธารณรัฐเช็กนั้น เป็นสิ่งก่อสร้างของชาติเดียวในยุโรปก็ว่าได้ ที่แทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกเลย ในขณะที่ประเทศอื่นๆ นั้น ถูกระเบิดเสียหายและต้องมีการบูรณะขึ้นมาภายหลังเป็นส่วนมาก ในทางกลับกัน ภายหลังยุคสงครามโลก ชุมชนเก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ยังตกอยู่ภายใต้กำแพงเหล็กของลัทธิคอมมิวนิสต์ จนถึงปี 1993 นี้เอง ที่สาธารณรัฐเช็กจึงได้เปิดตัวออกสู่สังคมโลกจากนั้นมา นักท่องเที่ยวจากทั่วยุโรปต่างใจจดจ่อ ที่จะได้เข้าไปสัมผัสเมืองโบราณที่ถูกซุกซ่อนไว้ใกล้กับพวกเขาอย่างที่สุดแห่งนี้ โดยเฉพาะเมืองสำคัญ อย่างกรุง Prague ที่เป็นเมืองหลวง และเมือง Cesky Krumlov











กรุง Prague นั้นมีมนตร์เสน่ห์หาใดเทียบได้ ปราสาทและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ดูแข็งแกร่งด้วยเหลี่ยมมุมและโครงสร้าง กลับแช่มช้อยด้วยสีและรายละเอียด หลายคนถึงกับเอ่ยชมความลึกลับและหมองหม่นของเมืองหลวงแห่งนี้ ว่ามีพลังดึงดูดพิเศษที่ทั้งลึกลับชวนค้นหา และเซ็กซี่วาบหวามในเวลาเดียวกัน 

มหาวิหารเซนต์วิตัส (St. Vitus Cathedral)
        ตั้งอยู่ในย่านปราสาทปราก สร้างในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 14 โดยมีสถาปนิกเอกชาวฝรั่งเศส Matthias of Arras ชาวสเวเบีย (Swabian) เป็นผู้ออกแบบและควบคุมดูแลคนต่อมา มหาวิหารสไตล์โกธิกแห่งนี้นับได้ว่าเป็นมหาวิหารที่มีความประณีตงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง นับตั้งแต่ประตูแกะสลักลวดลายตระการตา กระจกสีสเตนกลาสบานสูงที่ประดับรอบวิหารล้วนยิ่งขับให้มหาวิหารแห่งนี้ดูโดดเด่น


โบสถ์เซนต์เวนเซสลาส (St. Wenceslas Chapel)
        โบสถ์เซนต์เวนเซสลาสเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิหารเซนต์วิตัส ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของศิลปะในแบบโกธิก ภายในได้รับการตกแต่งด้วยภาพเฟรสโกและอัญมณีทีค่ากว่า 1,345 ชิ้น นอกจากนี้ยังเป็นที่เก็บพระศพของบรรดากษัตริย์ ในอดีต



อาหารการกินของสาธารณรัฐเช็ค
อาหารพื้นเมืองของสาธารณรัฐเชคนั้นเป็นอาหารที่ไม่ใกล้เคียงกับอาหารที่ดีต่อสุขภาพสักเท่าไหร ซึ่งทุกคนคงจะพบกับอาหารมือที่เรียกได้ว่า เป็นอาหารขยะเลยทีเดียว ซึ่งมันจะประกอบไปด้วย ซุปมันฝรั่ง เนื้อหมูอบกับเกี๊ยวและกระหล่ำปรีดอง เกี๊ยวผลไม้ หรือ แอปเปิ้ลสตรูเดล ในขณะเดียวกัน การรับประทานอาหารของชาวเชคนั้นเริ่มหันแนวทางไปสู่การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นแต่การรับประทานอาหารแบบดั้งเดิมก็ยังเป็นที่นิยมอย่างมากอยู่ และก็ยังคงเป็นอาหารที่มี แคลโลรี่ ไขมัน และน้ำตาลสูง


อาหารประจำชาติเช็ก คือฝันร้ายของชาวมังสาวิรัติ เนื่องจากเป็นอาหารจานเนื้ออุดมไปด้วยคอเลสเตอรอลที่มาพร้อมด้วยแป้งต้ม และมักจะเสิร์ฟกับเบียร์ ถ้าคุณถามชาวเช็กว่าอาหารที่เขารับประทานกันเป็นประจำคืออะไร เกือบทุกคนจะตอบเป็นเสียงเดียวกันได้โดยทันทีว่า "หมู"













ลักษณะภูมิศาสตร์ และภูมิอากาศ ในสาธารณรัฐเช็ค
เช็กเป็นดินแดนที่ประกอบด้วย ที่ราบสูง พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่สูงกว่าน้ำทะเล 200 เมตร นอกจากนั้นยังประกอบด้วย เนินเขา แม่น้ำรวมถึงทะเลสาบขนาดเล๊กๆอยู่ทั่วไป เช็กเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชหลายชนิด เพราะมีดินที่อุดมสมบูรณ์ มีอากาศแบบอบอุ่นภาคพื้นทวีป มีแร่ธาตุหลายชนิด แร่ที่สำคัญได้แก่ ถ่านหิน และ ยูเรเนียม    ครอบคลุมพื้นที่กว่า ๑๘๗๓๐ ตารางกิโลเมตร ลักษณะทางภูมิศาสตร์ ของผืนป่าตะวันตกมีตั้งแต่ราบต่ำถึงภูเขาสูง จากเทือกเขาเย็นและเทือกเขาเต่าดำทางด้านทิศเหนือคลุมพื้นที่ภูเขาหินปูน หุบเขาและที่ราบลุ่มและอ่างเก็บน้ำจืดอยู่ส่วนกลาง ลาดลงไปสู่เทือกเขาตะนาวศรีที่ยาวไปจนเชื่อมต่อกับชายแดนพม่า บริเวณพื้นที่แห่งนี้ก่อให้เกิดทั้งแม่น้ำ ลำธาร ถ้ำ หน้าผา น้ำตกและจุดชมภูมิทัศน์ที่สวยงาม  และที่สำคัญยังมีต้นน้ำที่กำเนิดลุ่มน้ำอีกกว่า ๖ แห่งจากลุ่มน้ำหลัก ๒๕ ทั้งหมดในประเทศไทย


สภาพอากาศ
อากาศร้อนมากในหน้าแล้ง มีความชื้นมากในหน้าฝน และค่อนข้างหนาวเย็นในหน้าหนาว นี้เป็นเพียงการสรุปโดยกว้าง ๆ ทั่วไป แต่สำหรับพื้นที่โดยรวมซึ่งอาจยังไม่นัก ซึ่งยังมีข้อยกเว้นอีกมาก ยกตัวอย่างเช่น  ภูเขาที่คอยปกป้องอุทยานแห่งชาติเอราวัณจากลมมรสุมด้านทิศตะวันออกส่งผลให้ปริมาณฝนโดยเฉลี่ยน้อยลงในขณะที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมีฝนตกหนักเนื่องจากสภาพอากาศใกล้หมดฤดูฝน   ฤดูในการท่องเที่ยว ช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการเดินทางไปเยี่ยมชมผืนป่าตะวันตก คือฤดูหนาว แต่สำหรับการชมความสวยงามของน้ำตกและปริมาณอย่างเต็มที่ ฤดูฝนก็จะเหมาะกว่าเนื่องจากระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงสุด ในบางพื้นที่ อุณหภูมิ อาจสูงขึ้นได้ถึง ๔๐ องศาเซลเซียส ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม และลดลงต่ำถึง ๓ องศาในเดือนธันวาคม

ของที่ระลึกและแหล่งช๊อปปิ้ง


เครื่องแก้วเช็กที่ขึ้นชื่อ เครื่องประดับอัญมณี เบียร์เช็กชั้นยอด เครื่องครัว สินค้าแบรนด์เนมระดับโลก ทั้งหมดนี้จะเป็นสินค้าที่รับประกันคุณภาพและมีราคาที่สมเหตุสมผล
ร้านค้าส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปราก บริเวณจัตุรัสเวนเซสลาส Národní třída, Vinohradská และถนน Pařížská ซึ่งอยู่ใกล้กับจัตุรัสเมืองเก่า นอกจากนี้ กรุงปรากยังมีตลาดใหญ่ๆ หลายแห่งที่คุณสามารถซื้อข้าวของได้ทุกอย่างจริงๆ และยังได้ราคาถูกกว่ามากด้วย มีศูนย์การค้าอยู่ตามแถบชานเมือง (Zličín, Černý Most, Chodov, Letňany) ซึ่งทุกที่สามารถไปถึงได้ทางรถไฟใต้ดิน
     ซื้อของที่ระลึกอะไรดี ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ เครื่องแก้วคริสตัล ของเล่นไม้ เครื่องประดับอัญมณี (โกเมนเช็ก) เป็นของที่ระลึกยอดนิยม หุ่นกระบอกและหุ่นชักใยที่ทำจากไม้ตามแบบดั้งเดิมหรือที่ทำจากปูนปลาสเตอร์ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีอีกอย่างหนึ่ง (การทำหุ่นกระบอกเริ่มต้นขึ้นประมาณศตวรรษที่ 18) ถ้าคุณอยากซื้อเหล้า อาจเลือกเป็น Becherovka ซึ่งเป็นเหล้าสมุนไพรซึ่งมีคุณสมบัติทางยา (ดีสำหรับการย่อยอาหาร) ก็เป็นของที่ระลึกที่แสดงถึงความเป็นเช็กอย่างยิ่ง เครื่องประดับอัญมณีแบบเช็ก (ผลิตโดย JABLONEX) ก็ดังมาก ลองหาลูกปัดอัญมณี ไข่มุกเลียนแบบและเครื่องประดับที่ทำจากแก้ว



อัตราค่าบริการ โดยสายการบินเอทิฮัดแอร์เวย์

 ราคาทัวร์สำหรับเดินทาง เดือน :  เมษายน
วันที่ : 19-26เม.ย. , 30เม.ย.-7พ.ค.
ลักษณะการเข้าพัก
ราคาทัวร์(บาท/ท่าน)
 ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ ราคาท่านละ
57,900
 เด็ก 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน
-
 เด็ก 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (มีเตียง)
-
 เด็ก 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน(ไม่มีเตียง)
-
 ผู้ใหญ่ ต้องการพักห้องเดี่ยวเพิ่มท่านละ
6,900
 ผู้ใหญ่ 3 ท่านพัก 1 ห้อง ท่านที่สามมีส่วนลด
-

**ราคาดังกล่าวอาจมีการปรับเปลี่ยนหากสายการบินมีการเรียกเก็บภาษีน้ำมันและภาษีสนามบินเพิ่มเติม








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น